ข่าวกีฬาตะกร้อ ตะกร้ออาชีพในปี 2552 คือจุดเริ่มต้นของ “ท๊อปรถถัง” ในวัย 18 ปี สู่การต่อยอดไปยังนครราชสีมา และคว้าแชมป์กับ ราชบุรี มาได้ถึง 2 ครั้ง
หากต้องกลับไปที่แพร่ เรื่องการปรับตัวไม่ใช่เรื่องที่ต้องเป็นห่วงอะไร เพราะแพร่เองใช้นักกีฬาจากกองทัพบกเป็นหลัก และในสถานการณ์ของอดีตแชมป์ 2 สมัยจากเมืองเหนือ ก็น่าคิดไม่น้อยว่าหากได้ รัถเดช น้อยเจริญ ไปล่าแต้มจากเกมเสิร์ฟ โอกาสจะได้ชูถ้วยแชมป์สมัยที่ 3 ของแพร่ในรอบ 16 ปี ก็มีโอกาสเป็นไปได้สูง
อำนาจเจริญ
รู้หรือไม่ว่า นี่คือสโมสรที่ รัถเดช เคยสวมเสื้อแข่งขัน เปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยแต่ไม่ได้ลงไปวาดลวดลายในสนาม เพราะในฤดูกาลดังกล่าว (ปี 2563) ทั้งรัถเดช น้อยเจริญ รวมถึงพรชัย เค้าแก้ว และ ภัทรพงษ์ ยุพดี ไม่สามารถออกมาร่วมการแข่งขันได้เนื่องจากภารกิจเก็บตัวทีมชาติ
รู้หรือไม่ว่า? ศึกตะกร้อลีกมีแข่งขันมาทั้งหมด 20 ครั้ง ไม่เคยมีทีมจากภาคอีสานคว้าแชมป์ได้เลย โดยอำนาจเจริญเคยเข้าใกล้ความสำเร็จมากที่สุดในปีแรกที่พวกเขาเข้าร่วมแข่งขันด้วยตำแหน่งรองแชมป์ ส่วนในฤดูกาลนี้แม้ขุมกำลังพลังหนุ่มจะยังทำผลงานได้ดี แต่การได้ รัถเดช น้อยเจริญ ไปร่วมทีม น่าสนใจไม่น้อยว่า การได้ ท๊อปรถถัง” ไปสวมเสื้อวานรพิฆาตลงแข่งขัน ประวัติศาสตร์แชมป์แรกของทีมจากอีสาน มีโอกาสสูงมากที่จะเกิดขึ้นในฤดูกาลนี้
สุพรรณบุรี
นี่คือจุดกำเนิดของ รัถเดช น้อยเจริญ อย่างแท้จริง จากเด็กน้อยขี้แย สู่การเลือกกีฬาตะกร้อเพื่อแบ่งเบาภาระครอบครัว ที่โรงเรียนกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี นี่คือบ้านหลังที่สองของเจ้าตัว ในการใช้ชีวิตทั้งในและนอกสนามตลอด 6 ปีเต็ม จนหล่อหลอมให้เขาเองกลายมาเป็นนักตะกร้อระดับแถวหน้าของประเทศไทย
สุพรรณบุรี คือน้องใหม่ที่ขุมกำลังไม่เป็นรองใครในลีก แต่หากมองในภาพรวมแล้วด้วยจำนวนผู้เล่นดาวรุ่งในทีมมีสัดส่วนมากกว่าผู้เล่นมากประสบการณ์ ทำให้หลายๆเกมของ “ช้างศึก” ต้องลุ้นหนักในการเอาชนะคู่ต่อสู้ การได้ รัถเดช ไปเป็นอีกหนึ่งอาวุธของทีม การได้กลับไปอยู่ในถิ่นทีสร้างตัวเองขึ้นมา ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่น่าติดตาม
อ่านข่าวต่อ : ข่าวกีฬาตะกร้อ
โพสต์โดย : sg14
