scorezod.com
Menu

ม้ามืดกับการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกของสโมสรฟุตบอล “เลสเตอร์ ซิตี้”

ม้ามืดกับการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกของสโมสรฟุตบอล “เลสเตอร์ ซิตี้” 

ประวัติสโมสรฟุตบอลของเลสเตอร์ซิตี้

สโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ มีชื่อเดิมว่า  สโมสรเลสเตอร์ ฟอสส์ เอฟซี ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ.1884 ตั้งอยู่ในเมือง เลสเตอร์ เขต อีสต์ มิดแลนด์ของประเทศอังกฤษ ได้รับฉายาว่า The Foxes  ในประเทศอังกฤษ และมีฉายาว่า “จิ้งจอกสีน้ำเงิน” หรือ  “จิ้งจอกสยาม” ตามฉายาที่ได้รับในประเทศไทย ความเป็นมาของสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ เริ่มต้นขึ้น จากนักบวชกลุ่มหนึ่ง ที่หลายคนศึกษาเล่าเรียนและเติบโตมาจากโรงเรียนเก่าแก่ "วิกเกสตัน" บนถนนเซาธ์เกต บาทหลวง "เลเวลลีน เอช พาร์สัน" และลูกศิษย์ ได้พูดถึงอนาคตเกี่ยวกับการก่อตั้งสโมสรฟุตบอลและการรวมตัวกันในครั้งนั้นก็ให้เกิดการก่อตั้งคณะกรรมการประจำสโมสรขึ้นมา โดยแต่ละคนลงทุนก่อตั้งสโมสรกันด้วยเงินลงทุน คนละ 9 เพนซ์ และ ลงเพิ่มอีกคนละ 9 เพนซ์ เพื่อนำไปซื้อลูกฟุตบอลมาเล่น เดอะ "ฟอสส์ เวย์" ชื่อถนนเก่าแก่ของอาณาจักรโรมัน ถูกนำมาใช้ก่อตั้งเป็นชื่อของสโมสรใหม่แห่งนี้ และ ที่มาของชื่อนี้ก็คือ ถนนที่เชื่อมระหว่างภาคตะวันตกเฉียงใต้และตะวันออกเฉียงใต้ของอังกฤษ แต่เนื่องจากในช่วงเวลานั้นการแข่งขันฟุตบอลยังไม่เป็นที่นิยมเหมือนในยุคปัจจุบัน ผู้คนส่วนใหญ่มองไปที่การเข้าร่วมกิจกรรมและออกกำลังกายอื่นมากกว่าการเล่นฟุตบอล

  ยุคตกต่ำของสโมสร 

ในช่วงปี 1960 เลสเตอร์ ซิตี้ ได้รับฉายาว่า “ราชันย์แห่งยุคน้ำแข็ง”(Ice Kings)  เพราะโชว์ฟอร์มได้ร้อนแรงในช่วงเวลาที่ประเทศอังกฤษนั้นมีสภาพอากาศที่หนาวจัด พวกเขาลุ้นแชมป์ทั้งฟุตบอลลีกและฟุตบอลถ้วยในปี 1963 ก่อนคว้าแชมป์ ลีก คัพ ในฤดูกาล 1964 และเข้าชิงอีกครั้งในปีถัดมา "เลสเตอร์" ได้เข้าร่วมแข่งขันในฟุตบอลถ้วยยุโรป คัพ วินเนอร์ส คัพในปี 1961 จนกระทั่ง "กอร์ดอน แบงค์ส" ผู้รักษาประตูของเลสเตอร์ในเวลานั้น ได้คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกกับทีมชาติอังกฤษในปี 1966 แต่ประมาณปี 1980 พวกเขาเลื่อนชั้น 2 ครั้ง และตกชั้นไปอีก 2 ครั้ง ตลอดฤดูกาลหลายปี ต่อมาทีมเลสเตอร์ ซิตี้ ได้ก้าวเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 ในพรีเมียร์ลีก  แต่ต้องตกชั้นไปอีกในปี 2002 กระทั่งย้ายจากสนามเก่าคือ ฟิลเบิร์ต สตรีท มายังสนามแห่งใหม่ ที่ ฟิลเบิร์ต เวย์ และใช้ชื่อว่า “วอล์คเกอร์ สเตเดี้ยม” ตามชื่อของผู้สนับสนุน

เจ้าของทีมชาวไทยตระกูล “ศรีวัฒนประภา”

ในปี ค.ศ. 2010 การเจรจาเพื่อเข้ามาเป็นผู้สนับสนุนบนเสื้อแข่งขันของ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชันแนล บริษัทด้านธุรกิจค้าปลีกสินค้าปลอดอากรของประเทศไทยแล้วเสร็จด้วยสัญญาสามปี แมนดาริชได้ประกาศขายทีมให้แก่ กลุ่มบริษัทชั้นนำของทวีปเอเชีย นำโดยวิชัย ศรีวัฒนประภา และบุตรชายอย่างอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา แต่แมนดาริชซึ่งได้ร่วมลงทุนในกิจการสโมสรยังดำรงตำแหน่งประธานสโมสรอยู่ ต่อมา "เกลาดีโอ รานีเอรี" อดีตผู้จัดการทีมเชลซีและผู้จัดการทีมหลายสโมสรในอิตาลีได้รับการแต่งตั้งเป็นกุนซือคนใหม่แม้จะได้รับเสียงวิจารณ์เชิงลบจากสื่อและกลุ่มผู้สนับสนุนในช่วงแรก แต่รานีเอรีก็พาทีมทำผลงานยอดเยี่ยมตั้งแต่ช่วงเปิดฤดูกาล กองหน้าตัวหลักอย่าง เจมี วาร์ดี ทำไปถึง 13 ประตูจากการลงสนาม 11 นัดติดต่อกันตั้งแต่เดือนสิงหาคมถึงพฤศจิกายน ทำลายสถิติของ รืด ฟัน นิสเติลโรย ในการทำประตู 10 นัดติดต่อกัน เลสเตอร์ซิตีคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างยิ่งใหญ่ เมื่อสเปอร์ทำได้เพียงบุกไปเสมอเชลซีด้วยผลประตู 2–2 ในการแข่งขันที่ดุเดือดที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก เลสเตอร์ยังทำลายสถิติในการใช้เวลาน้อยที่สุดหลังจากตกชั้นและกลับมาคว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้จนได้รับการขนานนามว่า "The Unbelievables" ผู้สันทัดกรณีหลายรายได้ยกย่องว่าการคว้าแชมป์ครั้งนี้อาจถือเป็นแรงบันดาลใจให้แก่สโมสรอื่น ๆ ในการทำผลงานยอดเยี่ยมแม้จะมีความคาดหวังไม่สูง ในฤดูกาลนี้เลสเตอร์ซิตียังได้รับการยกย่องในแง่ของการเล่นเกมโต้กลับได้อย่างยอดเยี่ยม รวมถึงการมีเกมรับที่แข็งแกร่ง 

  เลสเตอร์ซิตี้เกือบทำเจ้ามือรับแทงบอลเจ๊ง

บริษัทรับพนันแทงบอลถูกกฏหมายของอังกฤษ จัดการลดอัตราต่อรองที่ เลสเตอร์ ซิตี จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก เมืองผู้ดี จากเดิมที่เคยตั้งเอาไว้สูงถึง แทง 1 ได้ 5,000 ในก่อนออกสตาร์ต  ภายหลังฤดูกาลลดลงมาเหลือ แทง 1 ได้ 14 หลัง "เลสเตอร์ ซิตี้" โชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรงในช่วงครึ่งซีซั่นแรก และรั้งอยู่ในอันดับ 2 ของตารางโดยมี 39 คะแนนจาก 19 นัดเท่ากับ อาร์เซนอล ทีมจ่าฝูง แต่ผลต่างประตูได้เสียเป็นรอง ส่วนอัตราต่อแทงบอลออนไลน์ต่อรองทีคนแทงทีมเลสเตอร์จะได้รับหลังจบฤดูกาลในอันดับ 1 ใน 4 ก็ถูกหั่นลงมาเช่นกัน ตรงกันข้ามกับ เชลซี แชมป์เก่า ซึ่งรั้งอยู่ในอันดับ 14 ของตารางนั้น ที่มีอัตราต่อรองสำหรับการป้องกันแชมป์เอาไว้ได้อีกสมัย แต่ตอนนี้ราคากลับขยับขึ้นไปสูงเลยทีเดียว ขณะที่เต็ง 1 ที่จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกไปครองเป็น อาร์เซนอล และแมนเชสเตอร์ ซิตี ที่มีอัตราต่อรองเท่ากัน โดยมี ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ซึ่งได้แชมป์ลีกสูงสุดครั้งสุดท้ายเมื่อปี ค.ศ. 1961

สรุป ทีมเลสเตอร์ "The Unbelievables"

ใครจะไปคิดว่าทีมที่ขึ้นลงพรีเมียร์ลีกอยู่บ่อยๆจะสามารถคว้าแชมป์แรกของประวัติศาสตร์สโมสรมาได้จนเกือบทำให้บอนที่รับแทงบอลถูกกฎหมายของประเทศอังกฤษเจ๊งไปตามๆกัน เป็นฤดูกาลที่ได้สร้างชื่อเสียงให้กับนักเตะหลายคน รวมถึงกุนซืออย่าง “เกลาดีโอ รานีเอรี” ที่ไม่มีใครคิดว่าจะสามารถทำได้ แต่ที่ต้องยกผลประโยนช์ให้มากที่สุดคงหนีไม่พ้นเจ้าของทีมสัญชาติไทย ตระกูล “ศรีวัฒนประภา” ที่ลงทุนทำทีมตั้งแต่ติดลมจนสามารถขึ้นมาคว้าแชมป์ไปครองได้ในที่สุด


โพสต์โดย : วิเคราะห์บอล วิเคราะห์บอล เมื่อ 17 ต.ค. 2565 20:01:05 น. อ่าน 168 ตอบ 0

facebook