ข่าวสนุกเกอร์ สืบเนื่องมาจากไวรัสโควิด-19 ระบาดตั้งแต่ช่วงปลายปี 2019 จึงทำให้ 5 รายการแข่งขันที่จีน ไม่ว่าจะเป็น ศึกอินเตอร์เนชั่นแนลแชมเปี้ยนชิพ, ไชน่าแชมเปี้ยนชิพ, เวิลด์โอเพ่น, เซี่ยงไฮ้มาสเตอร์ส และ ไชน่าโอเพ่น ซึ่งแต่ละทัวร์นาเมนต์ ล้วนแล้วแต่ที่มีเงินรางวัลให้ชิงชัยสูงทั้งนั้น ไม่สามารถจัดการแข่งขันได้ เป็นเวลานานกว่า 3 ปีเข้าให้แล้ว และยังไม่มีกำหนดรีเทิร์น
ที่เป็นแบบนี้เนื่องจากรัฐบาลแดนมังกร ไม่ยอมเปิดประเทศเสียที และยังไม่อนุญาตให้ประเทศของเขา เป็นเจ้าภาพจัดกีฬารายการระดับนานาชาติด้วย สนุกเกอร์อาชีพโลกจึงโดนหางเลข แม้สถานการณ์โควิดปัจจุบัน จะดีขึ้นแล้วก็ตาม
ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้นักกีฬาหลายคน ต่างออกมาคร่ำครวญไปกันเป็นแถว เพราะรายการที่จีน ให้เงินรางวัลมากกว่าในอังกฤษหรือยุโรปหลายเท่าตัว
เรื่องนี้ “หมู ปากน้ำ” นพพล แสงคำ นักสอยคิวมือ 38 ของโลกชาวไทย เคยกล่าวไว้ว่า ตกรอบเดียวกันก็จริง แต่เงินรางวัลในรายการที่จีน ให้มากกว่าอังกฤษถึง 3 เท่าตัวเลยทีเดียว
อัลเลน ได้กล่าวว่า ตั้งแต่เริ่มฤดูกาล 2022-2023 เมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน มีทัวร์นาเมนต์ให้ชิงชัย(ไม่นับรอบคัดเลือก)เพียง 2 รายการเท่านั้น
แถมรายการอย่างแชมเปี้ยนชิพลีก เงินรางวัลก็มีเพียงน้อยนิด โดยแชมป์ได้เพียง 33,000 ปอนด์ หรือแค่ราวๆ 1.4 ล้านบาท แทบไม่ได้ช่วยให้นักสอยคิวทั้ง 128 คนในทัวร์อาชีพ ลืมตาอ้าปากได้เลย
ส่วนฤดูกาลปัจจุบัน แม้ว่าเวิลด์สนุกเกอร์ทัวร์ (WST) จะเพิ่มรายการอย่างฮ่องกงมาสเตอร์สและคู่ผสมชิงแชมป์โลกเข้ามา ทว่าทั้ง 2 รายการดังกล่าว จะเชิญนักสอยคิวเพียง 8 คนมาร่วมล่าเงินรางวัลเท่านั้น ผู้เล่นในทัวร์อีกร้อยกว่าชีวิต ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย จากการเพิ่ม 2 ทัวร์นาเมนต์นี้เข้ามา
นักสอยคิวจากไอร์แลนด์เหนือยังกล่าวอีกว่า เรื่องนี้ไม่รู้จะโทษใครดี และไม่ใช่ความผิดของเวิลด์สนุกเกอร์ทัวร์(WST) ด้วย เพราะโควิดมันอยู่นอกเหนือการควบคุม
แต่หากยังปล่อยให้เป็นแบบนี้ ศึกสอยคิวอาชีพโลกจะถอยหลังลงคลองเรื่อยๆ นักสนุกเกอร์จากทวีปอื่น ที่อยู่ห่างจากบ้านหลายพันไมล์ จะขาดรายได้ในการใช้ชีวิตต่างแดน และจะค่อยๆล้มหายไปจากทัวร์อาชีพเอง
นอกจากนี้ อัลเลน ยังกล่าวถึง แบร์รี่ เฮิร์น อดีตประธานเวิลด์สนุกเกอร์ทัวร์ด้วยว่า แม้ในอดีต เฮิร์น จะสร้างความมหัศจรรย์ ช่วยทำให้วงการพัฒนาขึ้น ยกระดับให้ศึกสอยคิวอาชีพโลกมีรายการมากขึ้น จากซีซั่นละ 10 กว่ารายการ ขึ้นไปเป็นฤดูกาลละ 20 กว่าทัวร์นาเมนต์ แถมยังมีเงินรางวัลให้ชิงชัยมากขึ้นเป็นทวีคูณอีกต่างหาก
แต่พอโควิดโผล่ขึ้นมาซ่าบนโลกมนุษย์ ท่านอดีตประธานเฮิร์นกลับวางมือไปดื้อๆ ไม่อยู่เคียงข้างนักสนุกเกอร์เหมือนเดิม โดย สตีเฟ่น ดอว์สัน ได้ขึ้นมานั่งเก้าอี้แทนเมื่อปีก่อน มันเป็นการกระทำที่บ่งชี้ว่า แบร์รี่ เฮิร์น รู้ดีมาโดยตลอด ว่าศึกสนุกเกอร์อาชีพโลก จะต้องเจอกับสภาวะการเงินที่ฝืดเคือง จึงรีบชิงลงจากตำแหน่งไปก่อนเพื่อหนีปัญหา และปล่อยให้นักสอยคิวในทัวร์ เผชิญกับปัญหาตามยะถากรรม
ทั้งนี้ หลายคนลุ้นให้จีนกลับมาเปิดประเทศ เพื่อให้การแข่งขันสนุกเกอร์อาชีพโลก 5 รายการเงินหนาที่จีนกลับมาอีกหน อันจะช่วยให้บรรดานักสอยคิวในทัวร์ ได้มีเงินรางวัลจากการแข่งขันไปหล่อเลี้ยงชีวิต
ทว่าเมื่อดูจากสภาพเศรษฐกิจจีน ณ เวลานี้ ก็ไม่ได้ดีเหมือนแต่ก่อน หลายๆบริษัทยักษ์ใหญ่ที่เคยได้กำไรต่อปีเป็นกอบเป็นกำ จนสามารถหนุนวงการกีฬาด้วยเม็ดเงินมหาศาล ได้พังครืนไม่เป็นท่า เพราะพิษโควิดเป็นเหตุ
ดูได้จากสโมสรฟุตบอลในศึกไชนีสซูเปอร์ลีกหลายทีม ที่เมื่อหลายปีก่อนกล้าดึงดาวเตะระดับโลกหลายคนมาโชว์ฝีเท้าในแดนมังกร ไม่ว่าจะเป็น คาร์ลอส เตเวซ, เอเซเกล ลาเวซซี่, มารูยาน เฟลไลนี่, ยานนิค การาสโก, สเตฟาน เอลชาราวี่ และคนอื่นๆอีกมากมาย
แถมบางสโมสรยังอาจหาญกล้าทุ่มเม็ดเงินหยวนจำนวนมหาศาล จ้างโค้ชบิ๊กเนมระดับโลกอย่าง มาร์เชโล่ ลิปปี้ และ ราฟาเอล เบนิเตซ มาสั่งการข้างสนามอีกต่างหาก แต่ก็ไม่เกิดขึ้นแล้วในยุคนี้
อีกทั้งบางทีมอย่าง เจียงซู ซู่หนิง ได้ประกาศยุบสโมสรไปแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา ทั้งๆที่เพิ่งได้แชมป์ลีกสูงสุดของแดนมังกรไปหมาดๆ
สิ่งเหล่านี้ ได้บ่งบอกเป็นนัยยะว่า ต่อให้โควิดสูญพันธุ์ไปจากโลกในเร็วๆนี้ จีนอาจเปิดประเทศได้ แต่เศรษฐกิจประเทศพวกเขาคงไม่กลับมาเฟื่องฟูเหมือนเดิม
การจะลุ้นให้ศึกสอยคิวอาชีพโลก 5 รายการเงินหนาที่จีนหวนมาจัดอีกหนเหมือนยุคทองเมื่อวันวาน คงต้องทำใจรอกันไปอีกสักพักใหญ่
อ่านข่าวต่อ : ข่าวสนุกเกอร์
โพสต์โดย : sg14 เมื่อ 29 ส.ค. 2565 14:11:24 น. อ่าน 213 ตอบ 0