ข่าวสนุกเกอร์ พร้อมกับทำให้นักสอยคิววัย 30 ปีผู้นี้ ผงาดคว้าโทรฟี่แชมป์ยูโรเปี้ยนมาสเตอร์สไปครองเป็นสมัยแรก ในการแข่งขันที่สตัดท์ฮัลเล่เฟือร์ธ เมืองเฟือร์ธ ประเทศเยอรมนี
ความสำเร็จในครั้งนี้ นอกจากจะทำให้เขา คว้าเงินรางวัล 80,000 ปอนด์ หรือประมาณ 3.3 ล้านบาทแล้ว ยังได้คะแนนสะสมเพิ่มขึ้นอีก 80,000 คะแนน จนมีอันดับโลกดีขึ้น 2 ขั้น จากอันดับ 8 ขึ้นมารั้งอันดับ 6 ของโลกแล้ว
อีกทั้ง ยังเป็นแชมป์เวิลด์แรงค์กิ้งทัวร์นาเมนต์ ที่มีผลต่อคะแนนสะสมอันดับโลก เป็นรายการที่ 5 ของเจ้าตัวอีกด้วย ต่อจากเซี่ยงไฮ้มาสเตอร์ส 2015, พอลฮันเตอร์คลาสสิค 2018, เยอรมันมาสเตอร์ส 2019, และแชมเปี้ยนชิพลีก 2020จึงเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปีเลยทีเดียว ที่นักสอยคิวจากเมืองนอร์แธมป์ตันเชียร์ หวนกลับมาคว้าแชมป์รายการระดับเวิลด์แรงค์กิ้งอีกหน ต่อจากศึกแชมเปี้ยนชิพลีก 2020 เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2020
นอกจากนี้ แม้จะเป็นครั้งแรกที่ได้ชูถ้วยยูโรเปี้ยนมาสเตอร์สเหนือศีรษะ ทว่าเป็นความสำเร็จที่เพิ่งปิดฉากลงไป นับเป็นประสบการณ์ครั้งที่ 3 ที่อดีตรองแชมป์โลกปี 2020 ได้มาคว้าแชมป์บนผืนแผ่นดินเยอรมัน
หลังจากก่อนหน้านี้ เขาเคยบุกมาคว้าโทรฟี่แชมป์บนดินแดนเบียร์และไส้กรอกแล้ว 2 หน ต่อจากศึกพอลฮันเตอร์คลาสสิค 2018 ที่สตัดท์ฮัลเล่เฟือร์ธ สังเวียนเดียวกับที่เพิ่งคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยนมาสเตอร์สครั้งนี้ และเยอรมันมาสเตอร์ส 2019 ณ เทมโปโดรม กรุงเบอร์ลิน
จนกล่าวได้ว่า ไคเรน วิลสัน ถือนักสอยคิวคนหนึ่ง ที่มักถูกชะตากับการเดินทางมาทำศึก บนแผ่นดินที่ถูกเรียกขานโดยคนท้องถิ่นว่า “ดอยช์ลันด์” แห่งนี้
อย่างไรก็ตาม ก่อนจะประสบความสำเร็จกับการคว้าแชมป์ในครั้งนี้ เชื่อว่าแฟนสนุกเกอร์คงยังไม่ลืมโมเมนต์ที่ ไคเรน เกือบเอาตัวไม่รอด ในการดวลคิวรอบตัดเชือกเมื่อวันเสาร์ที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา เมื่อเขาถูก อาลี คาร์เตอร์ นักสอยคิวรุ่นพี่ชาวอังกฤษ ที่รั้งอันดับ 20 ของโลก ขึ้นแท่นนำ 5-4 เฟรม
นับว่ายังดี ที่เร่งเครื่องฮึดกลับมาชนะได้อย่างฉิวเฉียด 6-5 เฟรม พาตัวเองผ่านเข้าชิงได้อย่างเสียวไส้ระทึกใจ
ด้าน แบร์รี่ ฮอว์กินส์ รองแชมป์ในครั้งนี้ เหมือนปล่อยพลังการแทงอันสุดยอด หมดไปกับรอบก่อนหน้านี้แล้ว
ตลอดเส้นทางก่อนเข้าชิง นักสอยคิวเลือดผู้ดีวัย 43 ปีผู้นี้ ออกคิวได้ไหลลื่น จนเอาชนะคู่แข่งแบบขาดลอยมาแทบทุกแมตช์
โดยเฉพาะเกมรอบก่อนรองชนะเลิศ ที่สำแดงผลงานอันยอดเยี่ยม จนจัดการปราบเต็ง 1 อย่าง จัดด์ ทรัมป์ มือ 2 ของโลกจากอังกฤษไปอย่างยอดเยี่ยม 5-3 เฟรม
ต่อเนื่องด้วยรอบตัดเชือก ไล่ต้อน มาร์ค เจ วิลเลียมส์ อดีตแชมป์โลก 3 สมัยจากเวลส์ ที่รั้งอันดับ 7 ของโลกไปแบบเหนือชั้น 6-2 เฟรม
แถมทั้งทัวร์นาเมนต์ ยังเป็นผู้ทำเซ็นจูรี่เบรก(ตบไม้เดียว 100 แต้มขึ้นไป) ได้มากที่สุดถึง 9 ครั้งอีกด้วย แบ่งเป็นรอบคัดเลือก 1 ครั้ง และรอบเมนดรอว์อีก 8 ครั้ง
ทว่าพอถึงรอบชิงชนะเลิศ ฟอร์มอันร้อนแรงในรอบที่ผ่านๆมา กลับหายเข้ากลีบเมฆไปดื้อๆ เสมือนไม่ใช่คนๆเดียวกัน จึงทำให้ ฮอว์กินส์ ปราชัยไปอย่างราบคาบ 3-9 เฟรม ได้เพียงรองแชมป์เท่านั้น ทั้งๆที่ก่อนแข่งรอบชิง บรรดาผู้สันทัดกรณีคิวโลก ต่างยกให้เขามีโอกาสคว้าแชมป์มากกว่า ไคเรน วิลสัน ด้วยซ้ำไป แม้อันดับโลกจะเป็นรองก็ตาม
และจากการได้เพียงรองแชมป์นี้เอง ทำให้ ฮอว์กินส์ ห่างหายจากการคว้าแชมป์รายการระดับเวิลด์แรงค์กิ้ง เป็นเวลานานเกินครึ่งทศวรรษเข้าให้แล้ว
โดยความสำเร็จครั้งสุดท้าย ในเวิลด์แรงค์กิ้งทัวร์นาเมนต์ของเขา ต้องย้อนกลับไปในศึกเวิลด์กรังด์ปรีซ์ 2017 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2017 เมื่อช่วง 5 ปีกับอีก 6 เดือนที่แล้วโน่นเลยทีเดียว
สำหรับการรับบทพระรองในศึกยูโรเปี้ยนมาสเตอร์สคราวนี้ ทำให้ ฮอว์กินส์ รับเงินรางวัลปลอบใจไป 35,000 ปอนด์(ประมาณ 1.4 ล้านบาท) และได้คะแนนสะสมอีก 35,000 คะแนน มีอันดับโลกดีขึ้น 3 ขั้น ขยับจากอันดับ 12 ขึ้นมารั้งอันดับ 9 ของโลก
อ่านข่าวต่อ : ข่าวสนุกเกอร์
โพสต์โดย : sg14 เมื่อ 22 ส.ค. 2565 16:59:47 น. อ่าน 177 ตอบ 0