ข่าวสนุกเกอร์ ต้อนรับ “เอสวัน” ไชยพงศ์ กรวสุรมย์ อดีตผู้จัดการทีมสอยคิวไทย ชุดซีเกมส์ 2021 เดินทางมาเยือนในฐานะผู้ท้าชิงตำแหน่ง
สังคมตั้งข้อสงสัยอยู่พอสมควร การลงคะแนนเลือกตั้งประมุขสอยคิวไทย เหตุใดมีเหย้ามีเยือน
สมาคมจึงเลือกไปจัดในร้านอาหารของหนึ่งในผู้สมัคร ไม่ไปใช้สนามกลาง หรือพื้นที่ภายในการกีฬาแห่งประเทศไทย ในฐานะหน่วยงานหลักที่กำกับดูแลการพัฒนากีฬาชาติ
แม้จะมีกระแสโซเชียลโหมกระหน่ำในประเด็นนี้ และอีกหลาย ๆ ความฉงน แต่คณะกรรมการชุดรักษาการ ได้ตัดสินใจเช่นนั้นไปแล้ว ก็ว่ากันไป
15 คะแนนโหวตจะมาจาก “สโมสรสมาชิก” อันประกอบไปด้วย… (ขี้เกียจอ่านข้ามได้)
-ราชกรีฑาสโมสร
-British Club
-ราชกรีฑาสโมสร โปโลคลับ
-แม็กซ์ – บี สนุกเกอร์ แอนด์ พูลเฮ้าส์
-สมาคมศิษย์เก่าเซนต์คาเบรียล
-การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
-สมาคมอัสสัมชัญ
-สมาคมศิษย์เก่าอัสสัมชัญศรีราชา
-บริษัท กสท. โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน)
-ชมรมสนุกเกอร์ กนอ. (การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย)
-TOT
-การท่าเรือแห่งประเทศไทย
-ชมรมบิลเลียดและสนุกเกอร์ ธนาคารออมสิน
-ชมรมกีฬาบิลเลียดสนุกเกอร์ สมาคมสโมสร การประปาส่วนภูมิภาค
-ชมรมกีฬาบิลเลียดและสนุกเกอร์ กฟภ.
จุดนี้สังคมตั้งคำถามอีกว่า ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับกีฬาชนิดนี้บนแผ่นดินไทย มีมากกว่าแค่ 15 สโมสรที่ร่วมบุกเบิกหรือไม่?
กฎเกณฑ์เขียนไว้ นักกีฬา, ผู้ฝึกสอน, กรรมการ เหล่านี้ไม่มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง ทั้งที่ใครเป็นหน้านายก กรรมการบริหารชุดใหม่หน้าตาเป็นเช่นไร ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของพวกเขาเป็นอย่างมาก
เช็กฟอร์ม “เฮียฮง” อยู่ในวงการมาหลายทศวรรษ นั่งนายกสมาคมมา 4 ปีเต็ม ๆ เรื่องความเก๋า สมัครพรรคพวก คอนเน็คชั่นไม่ธรรมดา
ทั้งยังได้ “คิวทอง” ศักดา รัตนสุบรรณ ที่คนบอกว่าเป็นกูรูสอยคิวเมืองไทยเป็นกุนซือข้างกาย ฝ่ายกองเชียร์เฮียบอกว่า อุ่นใจได้ 15 สโมสรได้มีการพูดคุยเอาไว้หมดแล้ว
“กระแสโซเชียลออกมาโจมตีดิสเครดิตผมในช่วงหลัง ทั้งที่ผมตั้งใจเข้ามาเสียสละทำงานเพื่อวงการสนุกเกอร์”
บทสัมภาษณ์จากการเลือกตั้ง ที่ล่มไปเพราะเอกสารขาดในครั้งก่อน ยืนยันชัดเจนว่าเฮียไม่ยอมรับในข้อกล่าวหา หรือประเด็นโจมตีใด ๆ ก่อนหน้านี้
ทั้งการค้างเงินนักกีฬา มาตรฐานโต๊ะแข่งขันยืนยันแก้ไขให้ทันท่วงที คนตั้งใจทำงานมา 4 ปีเต็ม เหตุใดจึงมากดดันกัน เจ้าตัวรู้สึกประมาณนั้น
ทางฝั่ง “เอสวัน” เป็นเจ้าของกิจการ S1 Signature Snooker Club ดูแลนักกีฬาเยาวชนอยู่ในสังกัดหลายคน
พุ่งทะยานขึ้นมามีบทบาทโดดเด่นในช่วงหลัง ทั้งจัดกิจกรรมระดมทุนช่วยนักกีฬาอาชีพ
ทุ่มทุนคุมทีมไปซีเกมส์ด้วยตัวเอง จนนักกีฬาบางคนแซวว่า “เลี้ยงดีเกินไป ใจถึงเหลือเกิน”
เป็นคนรุ่นใหม่สายเปย์ ในการนำเงินจากการทำธุรกิจส่วนตัวมาดูแลนักกีฬา
“ผมอาสาเข้ามาพัฒนา อยากเห็นวงการดีกว่าที่เป็นอยู่ ให้นักกีฬารู้สึกว่าตัวเองมีคนดูแลและมีอนาคตที่ดี” เอสวันกล่าว
ตำแหน่ง ผจก.ทีมชาติ ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็เฮียฮงนั่นแหละเป็นคนแต่งตั้งให้มาทำ แปลว่าสองฝ่ายรู้จักกันดี
ด้วยอายุที่แตกต่างกันมากกว่ายี่สิบปี สองฝ่ายมากันคนลงทรง แต่งองค์มาคนละแบบ เอสวันได้แต้มบวกจากพันธมิตร “สื่อใหม่” กุมกระแสในโลกออนไลน์ไว้เกือบหมด
พร้อมแรงสนับสนุนจากอดีตนายก 3 ทศวรรษอย่าง “บิ๊กสิน” สินธุ พูนศิริวงศ์ ออกมาประกาศดันเต็มตัว แถมยังตั้งคำถามเฮียฮงว่าเงิน 14 ล้านที่ตนทิ้งไว้ให้ทำสมาคมฯต่อ นำไปใช้จ่ายด้านไหน อะไรอย่างไรบ้าง?
อดีตมือ 3 ของโลก “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” ทั้งที่มีตำแหน่งเป็นกรรมการและประชาสัมพันธ์สมาคมฯเฮียฮง แต่รอบนี้ขอเปลี่ยนขั้ว
ประกาศชัดจะเป็นทีมงานพัฒนาวงการ ถ้าเอสวันได้รับตำแหน่ง
เช่นเดียวกับ “บิ๊กยอด” พัสสพงศ์ พิทักษ์พูลสิน อดีตเลขาธิการสมาคมฯ ที่เฮียฮงก็แต่งตั้งอีกเหมือนกัน แต่ขอลาออกไปตอนหลังบอกว่า “ไม่อยากมีปัญหา”
มาหนนี้ก็ขอเคียงข้างเป็นทีมงานเอสวันในการชิงบัลลังก์นายกฯ
ส่วนเฮียฮงเป็นที่รักของพี่น้องในวงการจำนวนไม่น้อย ก่อนหน้านี้ก็เคยเป็นผู้จัดการทีมชาติในดวงใจ เป็นความหวังใหม่ตอนขยับมาเป็นนายกฯ
เป็นเวลาหลายสิบปี เลี้ยงดูปูเสื่อพลพรรคนักข่าวเอาไว้ส่วนหนึ่ง ทั้งทีวีและนสพ. ช่วยกันประคับประคอง
ยามลำบากจากการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกและปัญหาโควิด ก็ประสานหางานให้ทำ หาเงินให้ใช้กันมาเป็นสิบ ๆ ปี ย่อมก่อเกิดเป็นความภักดี ชนิดยอมพลีกายถวายชีวิต
ออกมาเปิดหน้าชกประกาศตัวเป็นทหารแนวหน้าก็ยังมี
สภาวะการณ์ที่เกิดขึ้น สื่อจึงแบ่งออกเป็น 2 ขั้วอย่างชัดเจน ราวกับอาศัยอยู่บนโลกคนละใบ เสนอมุมมองข่าวแตกต่างกันคนละทาง
ผู้ชมผู้อ่าน ประชาชนจะเชื่อข้อมูลไหน คงต้องไตร่ตรองพิจารณากันอย่างละเอียดรอบคอบ
ย้ำอีกครั้งว่าสมาคมสอยคิวไทยไม่เคยมีการแข่งขันเลือกตั้งมาก่อน
ที่ผ่านมาคุยกันดี ๆ ใครเหมาะสมก็ว่ากันไป บางคนบอกเป็นวิถีไทย ๆ แต่บางฝ่ายบอก “สมาคมแห่งประเทศไทย” มาตกลงกันเองแบบนั้นมันไม่โอเคหรอก
รอบนี้ ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ มีแคนดิเดตนายกฯ 2 คน ลงมาสู้กัน ในแง่บวกคือวิถีประชาธิปไตยเบ่งบาน ทำให้สังคมวงกว้างจับตามอง
เป็นการตรวจสอบถ่วงดุลในอีกมุมหนึ่ง ไม่ให้อำนาจของผู้นำมากเกินไป จนอาจก่อความเสื่อเสียขึ้นได้
“Power tends to corrupt, and absolute power corrupts absolutely”
“อำนาจทำให้เสียคน ผู้ใดกุมอำนาจเบ็ดเสร็จ เสียคนเป็นแน่แท้”
ประโยคอมตะโดย “ลอร์ด แอคตัน” นักประวัติศาสตร์ชาวอังกฤษกล่าวเอาไว้ในศตวรรษที่ 19 หรือมากกว่า 200 ปีมาแล้ว
ไมว่าผลการเลือกตั้งจะเป็นเช่นไร วงการสนุกเกอร์ไทยจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว เพราะจากนี้จะมีฝ่ายตรวจสอบเกิดขึ้นมา
สังคมจะจับตาและตั้งคำถามมากขึ้น
เปรียบดั่งการเมืองมีฝ่ายค้าน มีการเปิดสภาอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ต่อให้ฐานเสียงยังแน่น โค่นล้มลงไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ต้องชี้แจงต่อสาธารณะ หรือถ้าโดนสอยเรื่องหนัก ๆ ก็ยังได้เขิน ได้สัมผัสถึงยางอายกันบ้าง
อันนี้ #พักข่าวเล่ากีฬา ไม่ได้จำเพาะว่าหมายถึงเมืองไทย ประเทศประชาธิปไตยไหน ๆ เขาก็ทำกันนะครับ
การกีฬาน้ำใจนักกีฬาเป็นเรื่องสำคัญ ใครชนะก็ยินดีด้วย ส่วนใครแพ้ก็ขอให้รักษาทรงหน้างานไว้ให้ดี ข้อโต้แย้งก็ไปว่ากันตามกฎหมายต่อจากนั้น
อยากเห็น “เฮียฮง-เอสวัน” จับมือกันหลังรู้ผลการลงคะแนน ทำให้เด็กมันดู
น้อง ๆ หนู ๆ หลาน ๆ จะได้จำเป็นแรงบันดาลใจ ว่าการ รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย ที่สอนกันในคาบพละมันเป็นแบบไหน
ภาพถ่ายจะได้สวยงาม ไม่วุ่นวายอึมครึม คนในวงการได้ลุกขึ้นปรบมือ และติดตามการพัฒนาอย่างใกล้ชิดต่อไปในเทอมการบริหารยุคใหม่ของสมาคมสนุกเกอร์ไทย
อ่านข่าวต่อ : ข่าวสนุกเกอร์
โพสต์โดย : sg14 เมื่อ 18 ส.ค. 2565 23:04:09 น. อ่าน 184 ตอบ 0