10 ที่พักวังน้ำเขียว นอนชิลชมทิวเขา ใกล้ชิดธรรมชาติ อัปเดต 2567

ใครกำลังวางแพลนหาที่เที่ยวธรรมชาติใกล้กรุงเทพ เราขอแนะนำเป็นวังน้ำเขียว ที่ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพประมาณ 3 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งเป็นอำเภอหนึ่งที่อยู่ในจังหวัดนครราชสีมา ถูกล้อมรอบไปด้วยทิวเขาสลับซับซ้อนกันอย่างสวยงามและมีต้นไม้นานาพันธุ์เรียงรายกันไป แถมด้วยอากาศบริสุทธิ์และเย็นสบายตลอดทั้งปี จนได้รับการจัดอันดับให้เป็นแหล่งโอโซนที่ติดอันดับโลกอีกด้วย เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนสุดๆ ไม่ว่าะไปเที่ยวกับเพื่อน คนรักหรือครอบครัว รับรองว่าได้ผ่อนคลายอย่างเต็มที่แน่นอน วันนี้เราได้รวบรวม 10 ที่พักวังน้ำเขียว นอนชิลชมทิวเขา ใกล้ชิดธรรมชาติ อัปเดต 2567 มาฝาก จะมีที่ไหนบ้างไปดูกันเลย

        เริ่มต้นกันที่แรก เวลาเวียน รีสอร์ท (Veravian Resort) ที่มีแนวคิดแบบ Modern Green Resort ผสมผสานความทันสมัยให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมได้อย่างลงตัว เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนหรือมาฮีลใจได้ตลอด ตั้งอยู่บนเนินเขา รายล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติสีเขียวนานาพันธุ์ บรรยากาศร่มรื่นเงียบสงบ อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี แถมด้วยวิวภูเขาแบบพาโนราม่า ตัวรีสอร์ทมีพื้นที่กว้าง เปิดให้บริการห้องพักหลากหลายตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าทั้งคนโสด มีหวานใจหรืออยากจะมาเป็นกลุ่มที่นี่ก็พร้อมต้อนรับทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นห้องพักแบบเต็นท์กระโจมสำหรับสายชิลรับลมธรรมชาติหรือจะนั่งชมดาวในตอนกลางคืนก็ยังได้ ห้องพักแคปซูลจะได้ฟิลใกล้ชิดกับธรรมชาติสุดๆ หากมากับกลุ่มเพื่อนหรือครอบครัวก็สามารถจองห้องพูลวิลล่าที่มาพร้อมกับสระว่ายน้ำสุดไพรเวทและห้อง Second Deluxe ได้ ภายในห้องจะค่อนข้างกว้างขวาง แบ่งแยกโซนการใช้งานได้อย่างดี แถมยังมีความเป็นส่วนตัวอีกด้วย ทุกห้องพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีสระว่ายน้ำกลางแจ้ง บริการนวด บริการรูมเซอร์วิส ฟาร์มสัตว์เลี้ยงแสนน่ารักและร้านอาหารสุดพิเศษอีกด้วย รับรองว่าถูกใจแน่นอน เห็นบรรยากาศแบบนี้แล้วเตรียมหาวันลางานมาพักผ่อนไปพร้อมกันเลย

        มาต่อกันที่ มูนริเวอร์ วิลเลจ (Moon River Village) มนต์เสน่ห์ที่มีกลิ่นอายแห่งความเป็นยุโรป อยู่ท่ามกลางป่าเขาอันเงียบสงบ ได้รับแรงบันดาลใจการตกแต่งจากฝรั่งเศส สไตล์โพรวองซ์ เรียกได้ว่าเดินเข้าแล้วเหมือนหลุดเข้าไปอีกโลกหนึ่งเลย ที่นี่ถูกห้อมล้อมไปด้วยธรรมชาติอันงดงามและให้ความเป็นส่วนตัว บรรยากาศร่มรื่น เหมาะกับการมาผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ ห้องพักมีให้เลือกหลายแบบตามไลฟ์สไตล์ เริ่มจากห้องมาตรฐานสำหรับสองคนไปจนถึงห้องวิลล่าที่มีขนาดกว้างแบ่งสัดส่วนการใช้งานได้อยากสะดวกเหมาะสำหรับการพักแบบกลุ่มเพื่อนหรือครอบครัว โดยห้องพักมีขนาด 25 - 45  ตารางเมตร การตกแต่งก็จะเน้นใช้วัสดุไม้และสีเอิร์ธโทน ทำให้บรรยากาศภายในห้องมีความอบอุ่น สบายใจดูเข้ากับธรรมชาติที่อยู่รอบนอก สามารถมองดูวิวทิวทัศน์ข้างนอกได้และทุกห้องพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน ซึ่งที่นี่สามารถนำสัตว์เลี้ยงเข้าพักได้ด้วยนะ แถมบรรยากาศรอบๆรีสอร์ท เรียกได้ว่าตกแต่งอย่างลงตัวให้ฟิลเหมือนอยู่ต่างประเทศเลย เหมาะกับคนชอบถ่ายรูปหรือทำคอนเทนต์สุดๆ สวยทุกมุมแน่นอน ส่วนใครที่มีแพลนจะแต่งงานลองมาถ่ายพรีเวดดิ้งที่นี่ก็ได้นะ ได้ภาพสุดโรแมนติกไปเก็บไว้เป็นความทรงจำดีๆ อีกเพียบ

        ส่วนคนที่มีเพื่อนเยอะ อยากมาปล่อยจอยเที่ยวเล่นด้วยกัน ขอแนะนำให้มาพักที่ บุหงาส่าหรี รีสอร์ต (Bu-Ngasari Resort) ที่เปิดให้บริการห้องพักเป็นหลัง เหมือนบ้านพักตากอากาศที่ให้ความเป็นส่วนตัว ออกแบบเป็นสไตล์โมเดิร์นและสไตล์ออร์เรนเทิล สามารถมองเห็นความสวยงามของภูเขาที่สลับซับซ้อนกันแบบพาโนรามา ได้ชมวิวสวยๆอย่างเต็มตาเลย ความเก๋ของที่นี่คือจะตั้งชื่อบ้านแต่ละหลังตามชื่อต้นไม้และดอกไม้ อย่างเช่น บ้านเทียน บ้านมะรุม บ้านส่าหรี บ้านหมากแดง เรียกได้ว่ากลมกลืนไปกับธรรมชาติของฉบับวังน้ำเขียวเลย ซึ่งบ้านแต่ละหลังจะแบ่งตามจำนวนผู้เข้าพักและมีการตกแต่งด้วยดีไซน์ที่ต่างกันมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ใครที่กำลังมองหาที่พักแบบกลุ่มใหญ่ๆสำหรับการจัดสัมนามีกิจกรรมกลางแจ้งหรือมาเที่ยวแบบหมู่คณะ บอกเลยว่าห้ามพลาดที่นี่เพราะมีบริการเสริมอย่างคาราโอเกะ ร้านอาหาร ห้องสัมนาและรับจัดเลี้ยง เรียกได้ว่ามีครบจบที่เดียวเลย ยิ่งมาพักกับเพื่อนด้วยแล้วไม่เหงาแน่นอน

        ใครอยากมาพักผ่อนให้เต็มอิ่ม ลองมาสูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอดกันที่ นรดีฮิวล์ รีสอร์ท ที่พักสไตล์บ้านสวน บรรยากาศรอบๆ เต็มไปด้วยความสมบูรณ์ของธรรมชาติและถูกปกคลุมไปด้วยสีเขียวของป่าไม้ มองไปทางไหนก็มีแต่ต้นไม้ ภูเขา ให้ความรู้สึกสดชื่นสุดๆ ภายในรีสอร์ท มีบริการห้องพักแบบเต็นท์โดมติดแอร์ให้ฟิลได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติสุดๆ ขนาดอยู่ที่ 20 - 25 ตารางเมตร เข้าพักได้ 2-4 คน มีทั้งเตียงเดี่ยวและเตียงคู่ ชอบแบบไหนก็เลือกพักได้ตามสะดวกเลย ทุกห้องมีห้องน้ำส่วนตัวและเครื่องทำน้ำอุ่นรวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นด้วย แถมมีบริการอาหารเช้าและสามารถสั่งหมูกะทะมาทานที่หน้าบ้านพักหรืออยากจัดปิ้งย่างในพื้นที่ส่วนตัวก็ได้ด้วย ตัวที่พักก็ยังอยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆอีกมากมาย รับรองเลยว่ามาพักที่นี่ได้ตื่นเช้าชมหมอกสีขาวรับอากาศบริสุทธิ์ให้ฉ่ำปอดพร้อมความรู้สึกสดชื่นเย็นสบายแน่นอน ส่วนตอนกลางคืนก็ชวนกันมานอนดูดาวสวยๆ เหมือนเราได้กลมกลืนไปกับธรรมชาติของที่นี่เลย

        ใครที่อยากมาพักผ่อนกับกลุ่มเพื่อนหรือครอบครัวใหญ่ๆ ท่ามกลางธรรมชาติสวยๆ ขอแนะนำเป็น เดินดินดูดาว รีสอร์ท (Dern Din Du Dao Resort) บ้านพักบนเนินเขา ถูกออกแบบให้ลดหลั่นกันไปเพื่อบ้านทุกหลังจะได้มองเห็นวิวทิวทัศน์อย่างชัดเจน รายล้อมไปด้วยภูเขาสลับซับซ้อน เป็นพื้นที่สีเขียวที่มอบอากาศบริสุทธิ์ให้กับทุกคน เปิดบริการห้องพักทั้งแบบอาคารห้องพักและบ้านพักเป็นหลัง ตกแต่งเป็นสไตล์โมเดิร์นและบาหลี มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบเช่น ห้องสแตนดาร์ดสำหรับ 2 คน มีระเบียงหน้าห้องชมวิวได้เลย ห้องพักสำหรับ 8 คน  เหมาะกับการมาพักกับกลุ่มใหญ่ๆ หรือใครที่ชอบความเป็นส่วนตัวก็สามารถจองบ้านพักเป็นหลังได้ การตกแต่งก็จะมีความแตกต่างกันไป ทุกห้องพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันและขนาดกว้าง ไม่อึดอัดแน่นอน ซึ่งสามารถเข้าพักได้ตั้งแต่ 2 - 10 คน ใครชอบแบบไหนก็เลือกกันได้ตามสะดวกเลย มีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆอีกเช่น ร้านอาหาร รับจัดเลี้ยง นวดแผนไทย และที่จอดรถ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่กางเต็นท์ให้ด้วย ใครชอบแนวแคมป์ปิ้งหน่อย บอกเลยว่าห้ามพลาด

        สำหรับคนที่กำลังวางแพลนอยากหนีร้อน มาสูดอากาศเย็นๆ ลองปักหมุดมาพักผ่อนที่ วิลลาเขาแผงม้า (Villa Khao Phaengma) ที่พักในรูปแบบวิลล่าสไตล์บาหลีที่ผสมผสานกับความเป็นไทยได้อย่างลงตัว แหล่งโอโซนเข้ากับธรรมชาติสุดๆ ตัวที่พักตั้งอยู่ใกล้เขาแผงม้า มีห้องพักให้เลือกหลายโซน บรรยากาศดี เย็นสบายพร้อมกับความเป็นส่วนตัว ไม่วุ่นวายแน่นอน ตัวเลือกห้องมีให้เลือกหลากหลายสไตล์ ใครที่มากับเพื่อนซี้หรือคู่รักจองเป็นห้องพักแบบ ห้องซูพีเรีย ห้องดีลักซ์ หรือห้องการ์เด้น สูท รับรองว่าคุ้มค่าแน่นอนหรือหากอยากพักแบบเป็นส่วนตัว ไม่วุ่นวาย ต้องเลือกเป็นห้องวิลล่า เช่น  วิลล่านาตาลี วิลล่าราเชล วิลล่าวิไล เข้าพักได้ 2-6 คน เหมาะกับกลุ่มเพื่อนและครอบครัว ภายในห้องพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ขนาดกว้าง เข้าพักได้สบาย แบ่งแยกโซนการใช้งานได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ยังมีสระว่ายน้ำกลางแจ้ง ฟิตเนส ห้องอาหาร บาร์ ที่จอดรถและบริการรูมเซอร์วิสอีกด้วย แถมยังพาสัตว์เลี้ยงเพื่อนซี้เข้าพักได้ด้วยนะ (มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) สามารถโทรสอบถามกับทางที่พักได้เลย

        มาต่อกันที่ บ้านภูปภา (Baan Phu Pa Pha)  ที่พักขนาดเล็กตั้งอยู่บนเนินเขา เปิดบริการที่พักเป็นหลังทรงสี่เหลี่ยมเรียงตัวตามเชิงเขาสไตล์โมเดิร์น มองเห็นวิวทัศน์ของธรรมชาติทั้งต้นไม้และภูเขาได้อย่างเต็มตา ความโดดเด่นของที่นี่คือการออกแบบของบ้านพัก จะเป็นลอฟท์ปูนเปลือยและใช้วัสดุเป็นกระจกใสรอบด้านเพียงแค่เราตื่นเช้ามาเปิดม่านออกก็ทำให้เรามองเห็นวิวข้างนอกได้เลย มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมาย ดื่มด่ำกับช่วงเวลาในการพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ สามารถเลือกพักได้ทั้งแบบบ้านพักเตียงเดี่ยว บ้านพักเตียงแฝด จะเข้าพักได้ 2 คนหรือบ้านพักสำหรับครอบครัว เข้าพักได้ 4 คน หน้าบ้านมีระเบียงให้นั่งเล่นชิวไปอีก นอกจากนี้ยังมีบริการอาหารเช้าและมีเตาปิ้งย่างให้เช่าด้วย จะชวนเพื่อนหรือครอบครัวมาเที่ยวรับรองว่าได้พักผ่อนอยากเต็มที่แน่นอน

         เอาใจคนชอบทำกิจกรรมแต่อยากมาเที่ยวด้วยและได้มาลองสัมผัสกับวิถีชีวิตติดธรรมชาติแนะนำว่าต้องเป็น วังภูไพร ฟาร์มสเตย์ เป็นบ้านพักส่วนตัวท่ามกลางป่าไม้ บรรยากาศเงียบสงบ ให้การต้อนรับอย่างเป็นกันเองและอัธยาศัยดีด้วย ที่นี่เต็มไปด้วยกิจกรรมสนุกๆ ไว้ให้สำหรับผู้ที่สนใจ เช่น การดูแลสุขภาพ อบสมุนไพร ฟาร์มผัก ทำเกษตรอินทรีย์รับรองว่าอาหารของที่นี่สด สะอาดและปลอดสารพิษแน่นอน ใครสายรักสุขภาพห้ามพลาด เปิดบริการบ้านพักแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 46-60 ตารางเมตรและบ้านพักแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 64 ตารางเมตร เข้าพักได้สูงสุดถึง 8 คน ซึ่งบ้านแต่ละหลังมีขนาดที่กว้างขวาง แบ่งสัดส่วนโซนการใช้งานไว้ได้อย่างลงตัว ทั้งห้องนอน ห้องน้ำและห้องนั่งเล่นแถมยังมีชานระเบียงให้ด้วย สามารถออกมานั่งรับลมชมวิวได้ชิวๆเลย ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกทางที่พักก็ได้จัดเตรียมไว้ให้อย่างครบครันและมีที่จอดรถส่วนตัวฟรีอีกด้วย เหมาะสำหรับการมาเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนแบบปล่อยจอยเลย 

        ท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์ มีที่พักอย่างดีเช่น บ้านภูหลวง รีสอร์ท (Baan Phu Luang Resort) ซ่อนตัวอยู่ในธรรมชาติแห่งวังน้ำเขียว โอบล้อมไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ที่แผ่กิ่งก้านคอยให้ร่มเงา มีสีเขียวขจีไปทั่ว แบ่งปันความเย็นสบายตลอดทั้งปี ใครที่อยากสัมผัสกับทะเลหมอกแนะนำให้มาพักในช่วงฤดูหนาวและฤดูฝนได้เห็นอย่างจุใจแน่นอน โดยที่นี่จะเปิดบริการบ้านพักเป็นหลัง แบ่งออกเป็น Montana Suite Big และ Montana Suite  สามารถเข้าพักได้ 2 คน อยู่ท่ามกลางสวนหย่อม ตื่นเช้ามาสดชื่นแน่นอน ต่อมาบ้านพักแบบ Terrace Suite และ Sunrise Suite เข้าพักได้ 2 ท่าน ความพิเศษคือจะมีริมระเบียงชมวิวส่วนตัว และสุดท้าย Grand Suite จะเป็นบ้านพักตากอากาศที่สามารถรองรับผู้เข้าพักได้สูงสุดถึง 20 คน แบ่งเป็น 5 ห้องนอน 7 ห้องน้ำ มีห้องนั่งเล่น ห้องครัวและพื้นที่จัดปาร์ตี้บาร์บีคิวแบบส่วนตัวด้วย ภายนอกบ้านมีศาลาชมวิวที่ทำให้มองเห็นบรรยากาศได้แบบ 360 องศาเลย ซึ่งบ้านทุกหลังมีการตกแต่งอย่างสวยงามและมีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน 

        มาถึงที่สุดท้าย คือ เอิร์ธ เอเลเมนต์ อีโค รีสอร์ต (Earth Elements Eco Resort) ที่พักท่ามกลางธรรมชาติเปิดใหม่สไตล์บาหลี บ้านพักเป็นแบบส่วนตัวมีเพียง 6 หลังเท่านั้น อากาศดี เงียบสงบติดริมน้ำ ซึ่งบ้านทุกหลังจะหันหน้าเข้าหาเขื่อนลำพระเพลิงทำให้เราได้เห็นวิวสายน้ำตัดกับภูเขาสวยๆ พร้อมกับสูดอากาศบริสุทธิ์จากห้องพักได้เลย บรรยากาศรอบๆ เต็มไปด้วยธรรมชาติสีเขียว ถ่ายรูปกันได้เพลินๆ เหมาะกับการมาเที่ยวพักผ่อนสุดๆ ขนาดห้องพักกว้างถึง 180 ตารางเมตร ภายในบ้านพักมีลานระเบียงให้นั่งเล่นชิลๆ ห้องน้ำส่วนตัว เครื่องปรับอากาศ โทรทัศน์ และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆอย่างครบครัน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสนุกๆให้ทำอีกด้วย อย่างการล่องเรือชมธรรมชาติยามเย็น ตกปลา หรือเล่นน้ำในสระน้ำส่วนตัวกลางแจ้งของทางที่พัก แถมยังมีอาหารสดๆ รสชาติอร่อยและเครื่องดื่มพร้อมเสิร์ฟไว้ให้เราด้วย