ประโยคเจ๋ง ๆ อย่าง “ทำดีที่สุดแล้ว ไม่ต้องกลัวอะไร” ก็อาจจะใช้ไม่ได้ในวันนี้ ที่ทุกอย่างเปลี่ยนไปเร็ว และเปลี่ยนไปแล้ว เมื่อชีวิตสู้กลับในวันที่เราพยายามสู้ชีวิต จึงเป็นตลกร้ายที่อาจพูดไปยิ้มไป แต่ในใจอาจแตกต่าง…
โชคดีที่เป็นคนเชื่อเรื่องการ “เปลี่ยน” จึงกล้ายอมรับอย่างไม่อายว่า แนวคิด (mindset) เดิม ๆ มันเริ่มใช้ไม่ได้ในหลายกรณีแล้ว เหมือนความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอาจไม่อยู่ที่นั่น ในทุกวันนี้ที่ปัจจัยมีความแตกต่างมากมาย และความเหลื่อมล้ำก็มีแต่จะหนักข้อขึ้น คล้ายที่เคยเขียนไว้ในเรื่อง “ทุนนิยมกับนมผงเด็ก” ที่ดูคล้ายว่าต้นทุนการก้าวหน้าในทุกวันนี้ มันมีแต่สูงขึ้น ยากขึ้นกว่าเดิม โดยอย่างยิ่งชนชั้นกลางที่เป็นชนชั้นส่วนใหญ่ในสังคม
สำหรับคนสู้ชีวิต นอกจากต้องเผชิญกับความเหลื่อมล้ำแล้ว ความบิดเบี้ยวของสังคมบางประการทำให้คนหากินไม่สุจริตกลับมีโอกาสหารายได้เป็นกอบเป็นกำ ธุรกิจแปลก ๆ ธุรกิจหลอกลวง ธุรกิจเชิงพนันมีมากมาย หรือคนทำตัวแย่ได้กลายเป็นดารา ด่าเก่งเป็นแม่ค้าขายดี โชว์โป๊ขายขนมได้มาก ผิดกับคนบางคนที่ขยันทำขนมให้อร่อยแทบตายเป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้บางทีก็ควรเริ่มทบทวนตัวเองกันด้วยว่า เราเองมีส่วนหรือเปล่า เป็นหนึ่งในผู้ให้ค่า หรือสนับสนุนธุรกิจ/คนบางประเภทอยู่หรือเปล่า?
อาจต้องเริ่มจากถามตัวเองอีกครั้งก่อนว่า สู้ชีวิต คือสู้กับอะไร? เพราะหลายครั้งสิ่งที่เราทำมันเป็นเพียงการ “ชกลม” คือสู้ในสิ่งที่ไม่จำเป็น อาจเรียกอีกอย่างชัด ๆ ว่าดันทุรัง แล้วเราก็ดันไปท้อว่า ชีวิตสู้กลับ เหมือนพยายามขายกล้องฟิล์มให้รวย ในวันที่คนส่วนใหญ่ใช้มือถือถ่ายภาพ หรือบางทีที่สู้ไม่ได้เพราะ “แบกน้ำหนัก” มากเกินไป ซึ่งมองได้หลายมุม เช่น อยากได้ทุกอย่างทุกเรื่อง นี่ก็ไม่ใช่ชีวิตสู้กลับ แค่หัดปล่อยวางบ้าง หยุดเอาแต่ใจเสียบ้าง หรือ ต้องยอมสละให้ได้บ้างว่าทุกอย่างไม่มีทางได้ดังใจ แม้แต่การช่วยคน หากวางได้ ภาระก็น้อยลง คล่องตัวขึ้น ก็จะสู้บางเรื่องได้ง่ายขึ้น เรื่องอื่น ๆ ก็จะทยอยดีขึ้นเอง
แต่… บางทีมันก็หลายปัจจัยจริง ๆ ยุคแห่งการถูกเปลี่ยน (Disrupt) ตั้งแต่ ค.ศ.2020 เป็นต้นมา ทั้งภาคสังคม เทคโนโลยี โรคระบาด สงคราม สารพัดวิกฤติในแต่ละกลุ่มที่ส่งผลร่วมกันบ้าง ต่างกันบ้าง เช่น ขาดแคลนน้ำ ขาดแคลนแรงงาน ขาดแคลนทรัพยากร หรือการขนส่งที่ไม่เพียงพอ เศรษฐกิจไม่ดี ตกงาน ก็สะท้อนไปเรื่องค่าครองชีพ และความเป็นอยู่ในที่สุด
หลายคนอาจยังมีโอกาส หลายคนอาจยังมีช่องทาง แค่ค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ ทำ แต่หลายคนก็ไม่… บางทีจึงต้องเข้าใจว่าในเวลาที่ชีวิตสู้กลับสิ่งที่ดีที่สุดคือ “ตั้งรับ” อย่าฝืน อย่ายึดติดภาพเก่าที่สำเร็จ อย่าอยากก้าวหน้าในเวลาที่ยากลำบาก หรือ อย่าคิดสู้ในตอนที่เรากำลังเมาหมัด
อย่าฝืน… คือการยอมรับว่าอะไรไม่เหมือนเดิม
อย่ายึดติด… คือบางสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ เป็นภาระ ต้องตัดออกเสีย ปล่อยเสีย ขายเสีย…
อย่าอยากก้าวหน้า… อย่าเปรียบเทียบ อย่าโลภ ในเวลาแย่ ๆ เช่นนี้สิ่งที่มาเสมอมักเป็นทางลัด ทั้งมิจฉาชีพ และการพนัน ไม่จำเป็นต้องรีบเพราะคนที่ก้าวหน้าก็ต้องดูจังหวะเป็น
อย่าเมาหมัด… จิตใจและสติคือสิ่งสำคัญ จะกำลังแย่ กำลังแพ้ ก็ต้องยกการ์ดให้สูงไว้ ประคองตัวเองให้พ้นไป ตั้งรับแบบนี้ไม่ได้ ก็ตั้งรับในอีกแบบเอา วันนี้สู้ไม่ได้ ถ้าเจ็บน้อยวันหน้ายังมีโอกาส แต่หากปล่อยให้เจ็บหนักโอกาสอาจยากกว่าเดิม…
และ
“เมื่อชีวิตสู้กลับ” บางทีเราอาจได้กลับมามองว่าอะไรสำคัญแท้จริง
โพสต์โดย : solo เมื่อ 16 พ.ค. 2567 18:29:28 น. อ่าน 33 ตอบ 0