เที่ยวยโสธร 1 วัน ไปไหนดี ? ยโสธร เป็นอีกหนึ่งจังหวัดทางภาคอีสานของไทย ที่มีเสน่ห์ด้านวัฒนธรรม อย่างที่รู้จักกันดีว่าเป็นสถานที่จัดงานประเพณีบั้งไฟ แต่นอกจากนั้นยโสธรยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย ทั้งวัดวาอาราม และชุมชนเก่าแก่ที่น่าสนใจมากมาย
1. พิพิธภัณฑ์พญาคันคาก
ลืมเมอร์ไลอ้อนสิงคโปร์ไปได้เลย! เพราะวันนี้เมืองไทยเรามีแลนด์มาร์คสุดยิ่งใหญ่ พิพิธภัณฑ์พญาคันคาก ตั้งอยู่ริมแม่น้ำทวนใน จ.ยโสธร เป็นตึกพิพิธภัณฑ์รูปคางคก ความสูง 19 เมตร หรือเท่ากับตึก 5 ชั้น สำหรับชาวอีสาน คางคกเป็นสัตว์ที่แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ และเป็นตำนานความเชื่อเกี่ยวกับประเพณีบุญบั้งไฟที่มีมาช้านาน จึงเป็นที่มาของแลนด์มาร์คแห่งใหม่ ที่ใครไปเที่ยวยโสธรก็ต้องแวะไปเช็คอิน
2. โบสถ์คริสต์บ้านซ่งแย้
ที่เที่ยว Unseen Thailand ของจังหวัดยโสธรที่ห้ามพลาด คือ โบสถ์คริสต์บ้านซ่งแย้ หรือชื่อทางการว่า วัดอัครเทวดามิคาแอล ใน ต.คำเตย อ.ไทยเจริญ จ.ยโสธร เป็นโบสถ์ไม้ของคริสต์ศาสนาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อายุเกือบ 100 ปี โบสถ์ไม้ขนาดใหญ่นี้สร้างด้วยศิลปะไทย กว้าง 16 เมตร ยาว 57 เมตร ใช้แผ่นมุงหลังคา 80,000 แผ่น และเสาขนาดต่างๆ กันถึง 360 ต้น ส่วนใหญ่เป็นเสาไม้เต็งและปรับปรุงให้มีช่องแสงประดับกระจกสีสวยงาม เป็นที่เที่ยวที่ต้องแวะไปชมให้ได้สักครั้งหนึ่ง
3. นั่งรถรางชมเมืองยโสธร ย่านเมืองเก่าบ้านสิงห์ท่า
การนั่งรถรางเที่ยวชมเมืองยโสธร เป็นกิจกรรมที่เพลิดเพลินไม่เบา เพราะนอกจากจะได้ไปชมสถานที่เที่ยวสำคัญต่างๆ ของยโสธรแล้ว ยังได้เรียนรู้วัฒนธรรมชุมชน และพบปะกับชาวยโสธรที่น่ารักอีกด้วย ใช้เวลาเพียวชั่วโมงกว่าๆ ก็ได้แวะเที่ยวชมหลายสถานที่ เช่น วัดมหาธาตุ ชุมชนเก่าบ้านสิงห์ท่า บ้านทำบั้งไฟ และกลุ่มผลิตปลาส้มยโสธร
ใครที่พอมีเวลาช่วงเช้า บริเวณหน้าวัดสิงห์ท่า ในชุมชนสิงห์ท่า จะมีการจัดงานตักบาตรย้อนยุคขึ้นทุกๆ วันศุกร์และวันเสาร์ แนะนำให้ตื่นเช้าขึ้นมาทำบุญตักบาตร นอกจากจะได้บุญแล้ว ยังได้สัมผัสบรรยากาศเมืองเก่า และสูดอากาศบริสุทธิ์ยามเช้าอีกด้วย
5. หมู่บ้านทำหมอนขิด บ้านศรีฐาน
เที่ยวยโสธรทั้งทีจะหาของฝากของที่ระลึก นอกจากข้าวหอมมะลิ แตงโม ปลาส้มแล้ว ก็มีหมอนขิดที่เป็นสินค้า OTOP ขึ้นชื่อ แวะไปเที่ยวยังแหล่งผลิตกันเลยที่บ้านศรีฐาน อ.ป่าติ้ว ที่นี่หลังฤดูทำนา ชาวบ้านเกือบทุกครัวเรือนจะทอผ้าทำหมอนขิดเป็นอาชีพเสริม นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมการทำหมอนขิด ตั้งแต่การเย็บผ้าทำปลอกหมอน การขึ้นโครง ยัดนุ่น และอย่าลืมเลือกซื้อหมอนขิดและผลิตภัณฑ์จากผ้าขิดอีกหลายรูปแบบหลากสี เช่น หมอนอิง หมอนข้าง ที่นอนพับ และที่นอนระนาด
6. วัดพระพุทธบาทยโสธร
วัดพระพุทธบาทยโสธร หรือ วัดพระบาท เป็นสถานที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง และหลวงพ่อนาคปรก วัดนี้จะใช้ศิลปะแบบประยุกต์ จึงมีพระอุโบสถเป็นสีขาวตัดกับหลังคาสีน้ำเงิน ไฮไลท์จะอยู่ตรงที่ เจดีย์มหาชนะชัย ที่ด้านในมีพระประธานที่เจียระไนจากหยกขาว สูงถึง 3.7 เมตร นับเป็นพระพุทธรูปหยกขาวใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอีกด้วยค่ะ รวมไปถึง หุ่นขี้ผึ้งหลวงพ่อต่างๆ มากมายให้เราได้สักการะกัน
7. ธาตุก่องข้าวน้อย
ธาตุก่องข้าวน้อย หรือที่นิยมเรียกกันว่า พระธาตุถาดทอง หรือพระธาตุตาดทอง ตั้งอยู่กลางทุ่งนาของบ้านตาดทอง ซึ่งเป็นชุมชนโบราณที่อยู่มาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์มาจนถึงสมัยทวาราวดี บริเวณโดยรอบยังมีการขุดพบหลักฐานทางโบราณคดีต่าง ๆ มากมาย ในช่วงเดือนเมษายนจะมีประเพณีสรงน้ำ พระและปิดทอง เชื่อกันว่าถ้าไม่ทำเช่นนี้ฝนจะแล้งในปีนั้นๆ ค่ะ
ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองยโสธร ตั้งอยู่ใน ย่านเมืองเก่าบ้านสิงห์ท่า ความพิเศษของที่นี่คือมีการผสมผสานศิลปะของ 3 วัฒนธรรมเข้าด้วยกัน ได้แก่ ไทย ลาว และจีน สิ่งพิเศษอีกอย่างคือที่นี่มีศาลหลักเมืองถึง 3 เสาด้วยกัน ภายในจะตกแต่งแบบผสมผสานศิลปะ 3 วัฒนธรรม ไทย จีน ลาว ด้านหน้ามีมังกรคู่ขนาดใหญ่อยู่ตรงทางเข้า ส่วนฝาผนังจะเป็นหินขัดลวดลายจีนที่สวยงามมากนั่นเองค่ะ และในทุกๆ ปียังมีการจัดงานสมโภชเจ้าพ่อหลักเมืองด้วย
9. ภูถ้ำพระ
ภูถ้ำพระ เป็นถ้ำใหญ่ที่ภายในมีพระพุทธรูปอยู่เป็นจำนวนมาก และยังเป็นพระพุทธรูปโบราณอายุไม่ต่ำกว่า 100 ปีทั้งสิ้น รอบๆ ภูถ้ำพระยังเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติด้วย เพราะรอบๆ นี้เป็นพื้นที่ภูเขาขนาดเล็กมีป่าไม้เบญจพรรณขึ้นอยู่ทั่วไปค่อนข้างสมบูรณ์ มีความร่มรื่น บนยอดเขายังมีลานกว้างที่สามารถกางเต็นท์พักแรมชมธรรมชาติได้
10. วัดพรหมวิหาร
วัดพรหมวิหาร เป็นวัดที่สำคัญแห่งหนึ่งของ จังหวัดยโสธร โดยมีไฮไลท์อยู่ที่ องค์พระใหญ่ สีทองอร่าม ที่ตั้งอยู่ในบริเวณกว้าง สามารถมองเห็นได้แต่ไกลค่ะ ซึ่งถือได้ว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในอำเภอเลิงนกทา เลยทีเดียว อีกทั้งมีอุโบสถโบราณ และยังเป็นสถานที่ไว้สำหรับปฎิบัติธรรมอีกด้วย เงียบสงบเหมาะกับการทำสมาธิอย่างมาก และอย่าลืมไปสักการะ นาคราช 6 เศียร ฆ้องใหญ่ รวมไปถึงเจดีย์ต่างๆ กันด้วยน้า