เมืองนี้มีชื่อเสียงมายาวนานในฐานะจุดหมายปลายทางอันโรแมนติกสำหรับคู่รักและผู้ที่ออกเดินทางฮันนีมูน ปารีสกับความโรแมนติกเป็นของคู่กันเฉกเช่นชีสกับไวน์ หากต้องการสำรวจปารีสแบบสบายๆ ให้วางแผนท่องเที่ยวอย่างน้อย 4 วัน แผนการเดินทาง 4 วันในปารีสนี้มีกิจกรรมสุดโรแมนติกมากมาย รวมถึงการล่องเรือไปตามแม่น้ำแซน
(the Seine) และการปิกนิกพร้อมชมวิวหอไอเฟล
(Eiffel Tower) เราแนะนำให้ไปเที่ยวปารีสในวันธรรมดาเพื่อหลีกเลี่ยงความพลุกพล่านจากกลุ่มครอบครัวช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่โปรดทราบว่าพิพิธภัณฑ์บางแห่งปิดให้บริการในวันจันทร์หรือวันอังคาร
ที่พักในปารีส
ย่านมงต์มาตร์
(Montmartre) ในเขตชานเมืองทางเหนือของปารีสเป็นย่านโรแมนติกที่สุดของเมืองและเป็นที่ตั้งของโรงแรมบูติกขนาดเล็ก เช่น โรงแรมเมอซิเออร์อาริสตีด
(Hotel Monsieur Aristide) ทางใต้คือย่านปิกัลล์
(Pigalle) ซึ่งเป็นย่านโคมแดงที่มีชื่อเสียงของปารีสซึ่งกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นทุกวัน นี่คือพื้นที่ซึ่งคุณจะได้พบกับโรงแรมเมซงซูเกต์
(Maison Souquet) โรงแรมเซอเกรต์เดอปารีส์
(Secret de Paris) และโรงแรมอื่นๆ ที่ทำให้คู่รักมีอารมณ์ซุกซนอยู่ไม่สุข หรือจองที่พักของคุณในเขตที่ 7 เพื่อให้อยู่ใกล้กับหอไอเฟล โรงแรมมือเกต์
(Hotel Muguet) และโรงแรมดูเกสน์ไอเฟล
(Hotel Duquesne Eiffel) ให้บริการห้องพักที่มองเห็นสัญลักษณ์แห่งความรักนี้
วันแรกแต่งตัวให้ดูดีเพื่อจะได้เหมาะกับสไตล์และเสน่ห์ของใจกลางกรุงปารีส สถานที่อันโดดเด่นของเขตที่ 1 คือพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ซึ่งเป็นที่ตั้งของ ภาพโมนาลิซา อีกทั้งเป็นสถานที่ซึ่งคู่รักผู้ชื่นชอบศิลปะและประวัติศาสตร์ไม่ควรพลาด ซื้อบัตรผ่านประตูทางระบบออนไลน์ หรือจองทัวร์พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกแบบไม่ต้องต่อคิว
นอกจากพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์แล้ว ย่านนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ที่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก เช่น พิพิธภัณฑ์ลอรองเฌอรี
(Musée de l'Orangerie) และพิพิธภัณฑ์ศิลปะการตกแต่ง
(Musée des Arts Décoratifs) นอกจากนี้ เขตที่ 1 ของปารีสยังเหมาะสำหรับการช้อปปิ้งในร้านบูติกสุดหรูและการเดินเล่นในสวนที่ตกแต่งอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย เดินทางไปยังเขตที่ 2 เพื่อเที่ยวชมถนนมงตอร์เกญ์
(Rue Montorgueil) ซึ่งมีร้านกาแฟ ร้านเบเกอรี่ ร้านชีส และร้านดอกไม้ตั้งอยู่เคียงกัน หรืออาจจะเดินเตร็ดเตร่ไปยังแหล่งช้อปปิ้งอันหรูหรา เช่น กาเลอรีวิเวียน
(Galerie Vivienne) และปัสซาจเดส์ปาโนรามาส์
(Passage des Panoramas) เพื่อแวะพักดื่มกาแฟในบรรยากาศที่เป็นกันเอง
ในช่วงที่ 2 ของวัน ไปที่ย่านมงต์มาตร์ซึ่งกินเนื้อที่กว้างใหญ่บนเนินเขาในเขตที่ 18 ย่านนี้ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นหมู่บ้านที่โรแมนติกซึ่งมีถนนปูด้วยหินและเต็มไปด้วยหอศิลป์ มหาวิหารพระหฤทัย
(Sacré-Cœur Basilica) ตั้งอยู่บนจุดสูงสุดของย่านมงต์มาตร์ อันเป็นตำแหน่งที่มองเห็นทัศนียภาพโดยรอบของปารีส รับภาพล้อเลียนของคุณทั้งคู่จากฝีมือของศิลปินที่ลานปลาสดือแตร์เตรอ
(Place du Tertre) หรือเดินเตร็ดเตร่ไปที่กำแพงบอกรัก
(Le Mur des Je t'aime) อันเป็นผลงานศิลปะที่มีวลี “ฉันรักคุณ” ใน 250 ภาษา อาจปิดท้ายวันด้วยการชมการแสดงคาบาเร่ต์ยามดึกอันน่าตื่นตาตื่นใจพลางจิบ แชมเปญที่โรงละครมูแลงรูจ
(Moulin Rouge)
แม่น้ำแซนเป็นสายน้ำที่อบอวลไปด้วยความโรแมนติก ไหลคดเคี้ยวผ่านปารีสโดยแบ่งเมืองนี้ออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ฝั่งซ้าย (หรือภาษาฝรั่งเศสเรียกว่า
Rive Gauche อ่านว่า “รีฟโกช”) และฝั่งขวา (หรือภาษาฝรั่งเศสเรียกว่า
Rive Droite อ่านว่า “รีฟดรวต”) อย่างไรก็ดี กลางแม่น้ำแซนยังมีเกาะลาซิเต
(Île de la Cité) และเกาะแซงต์หลุยส์
(Île Saint-Louis) ซึ่งเป็นจุดที่มองเห็นทัศนียภาพชวนฝันได้ในหลายมุม
สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญบนเกาะลาซิเตคือโบสถ์แซงต์ชาแปลล์
(Sainte-Chapelle) อันเป็นโบสถ์น้อยประจำราชวงศ์ที่มีหน้าต่างกระจกสีสวยงามน่าประทับใจ นักท่องเที่ยวมักจะมองข้ามเกาะแซงต์หลุยส์ เนื่องจากไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญซึ่งมีค่าเข้าชมสูง แต่ย่านที่มีเสน่ห์แห่งนี้ก็คุ้มค่าที่จะมาแวะร้านอาหารแบบดั้งเดิมซึ่งซ่อนตัวอยู่ในตรอกอันเงียบสงบและร้านไอศกรีมที่มีชื่อเสียงอย่างร้านแบร์ทิญง
(Berthillon)
เปลี่ยนมุมมองของคุณโดยการล่องเรือไปตามแม่น้ำแซน พร้อมดื่มด่ำไปกับความงดงามของปารีส บริษัทบาโตซ์ปารีเซียงส์
(Bateaux Parisiens) บริษัทเวอเดตส์เดอปารีส์
(Vedettes de Paris) และผู้ให้บริการรายอื่นๆ นำเสนอทริปต่างๆ โดยสามารถเลือกได้ว่าจะรับประทานอาหารกลางวันหรือรับประทานอาหารค่ำขณะล่องเรือ ในการล่องเรือชมทิวทัศน์ คุณจะเห็นสถานที่ท่องเที่ยวอันโดดเด่น เช่น หอไอเฟล พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ อาสนวิหารน็อทร์ดาม
(Notre Dame Cathedral) และพิพิธภัณฑ์ออร์แซ
(Musée d'Orsay) อีกตัวเลือกหนึ่งที่ราคาถูกกว่าคือเรือบาโตบูส
(Batobus) อันเป็นเรือล่องแม่น้ำที่คุณสามารถเลือกขึ้นและลงได้อย่างอิสระ โดยมีจุดจอดเรือ 9 จุดตามแนวแม่น้ำแซน ในเวลากลางคืน ให้เดินไปตามริมฝั่งแม่น้ำและข้ามสะพานที่สวยงาม เช่น สะพานปงต์เดซาร์
(Pont des Arts) พร้อมกับการชมแสงสีของเมืองที่ระยิบระยับอยู่บนผิวน้ำ
หลังจากได้เห็นหอไอเฟลจากที่ไกล ก็ถึงเวลาชมหอไอเฟลระยะใกล้แล้ว ตลอดระยะเวลาซึ่งสถานที่สำคัญดังกล่าวตั้งอยู่ที่นี่มีคู่รักมอบจูบแรกและขอแต่งงานกันนับไม่ถ้วน โดยคุณอาจเป็นคู่รักอีกคู่ที่มีเวลาพิเศษ ณ ที่แห่งนี้ได้ด้วยเช่นกัน หอไอเฟลเป็นอีกที่หนึ่งซึ่งคุณสามารถซื้อตั๋วแบบไม่ต้องต่อคิว หรือเข้าร่วมทัวร์หอไอเฟลพร้อมไกด์ อันจะช่วยประหยัดเวลาอันมีค่าของคุณได้ สัมผัสความมหัศจรรย์กับเส้นขอบฟ้าของปารีสที่น่าตื่นตาตื่นใจมากขึ้นเมื่อยิ่งเข้าใกล้จุดสูงสุด เมื่อคุณกลับมาถึงด้านล่าง เพลิดเพลินไปกับการปิกนิกสุดโรแมนติกพร้อมชมวิวหอไอเฟลจากสนามหญ้าเขียวขจีของสวนเลอโทรกาเดโร
(Le Trocadéro) หรือสวนชองเดอมาร์ส
(Parc du Champ de Mars) จากนั้นดื่มด่ำไปกับของหวานจากร้านขนมตามแนวถนนแกลร์
(Rue Cler) ให้รางวัลตัวเองด้วยการนวดสำหรับคู่รักที่ร้านเซนเซชันสปา
(Sensation Spa) หรือการเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์หลายแห่งในบริเวณใกล้เคียง
จากนั้น ขึ้นรถไฟใต้ดินไปยังประตูชัย อันเป็นสัญลักษณ์ที่ถือเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติของฝรั่งเศส คุณสามารถชมเปลวไฟชั่วนิรันดร์และหลุมศพทหารนิรนามที่ฐานประตูชัยได้ฟรี แต่หากต้องการขึ้นไปยังระเบียงด้านบนเพื่อชมทัศนียภาพอันน่าทึ่ง คุณจะต้องซื้อตั๋ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ดวงอาทิตย์ฉายแสงสีทองอร่าม ถนนช็องเซลีเซส์ มักได้รับการกล่าวขานว่าเป็นถนนที่สวยที่สุดในโลก เริ่มต้นจากประตูชัย ทอดยาวเป็นระยะทาง 1.2 ไมล์ ไปจนถึงจัตุรัสปลาสเดอลากงกอร์ด
(Place de la Concorde) เดินไปตามถนนที่ร่มรื่นเพื่อช้อปปิ้งอย่างสนุกสนานกับคนรักของคุณ
ย่านแซงต์แฌร์แม็งและย่านลาแต็งการ์เตร์บนฝั่งซ้ายของแม่น้ำแซน มีสิ่งละอันพันละน้อยสำหรับคู่รักที่ชื่นชอบศิลปะ วรรณกรรม อาหาร ธรรมชาติ และความบันเทิงยามราตรี เริ่มต้นจากย่านแซงต์แฌร์แม็ง ศูนย์กลางแห่งชีวิตวรรณกรรมและศิลปะในปารีส จิบเครื่องดื่มที่ร้านคาเฟเดอฟลอร์
(Café de Flore) หรือร้านเลซ์เดอซ์มาโกต์
(Les Deux Magots) ซึ่งทั้งสองร้านเป็นที่ทราบกันว่านักเขียนชื่อดังอย่างเฮมิงเวย์
(Hemingway) แวะเวียนไปเสมอ ทางด้านตะวันออกของย่านแซงต์แฌร์แม็งคือย่านลาแต็งการ์เตร์ที่คึกคักทั้งวันทั้งคืนโดยกลุ่มนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยซอร์บอนน์
(Sorbonne University) มองหาสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมหรือปล่อยตัวเดินไปตามถนนสายต่างๆ เพื่อแวะร้านหนังสือที่มีเสน่ห์แบบโบราณและสถานที่สลัวๆ ซึ่งอยู่ไกลจากกลุ่มนักท่องเที่ยว
ย่านลาแต็งการ์เตร์มีบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาของอาหารหลากหลายวัฒนธรรม ดังนั้นลองเดินเฟ้นหาอาหารจากแผงขายสินค้าในตลาดมูฟตาร์ด
(Mouffetard Market) หรือเข้าร่วมทัวร์ชิมอาหารเพื่อลิ้มลองรสชาติอาหารที่หลากหลายในย่านนี้ ต้องการหยุดพักจากการเดินเที่ยวใดๆ ใช่หรือไม่ มีพื้นที่สีเขียวซ่อนอยู่ท่ามกลางพื้นที่เมืองอันกว้างใหญ่ ดังนั้นลองมองหาที่นั่งใน สวนลุกซ็องบูร์ สวนพฤกศาสตร์
(Jardin des Plantes) หรือสวนจัตุรัสเรเนวิเวียนี
(Square René Viviani) ดู หลังจากดวงอาทิตย์ตกดิน เดินกลับไปที่ร้านตูร์ดาร์ฌองต์
(Tour d'Argent) เพื่อรับประทานอาหารฝรั่งเศสในบรรยากาศหรูหรา หรือจะแวะเข้าคลับสักแห่งบนถนนลาอือเชตต์
(Rue de la Huchette) เพื่อจัดปาร์ตี้ข้ามคืนกับคนรักของคุณก็ได้