scorezod.com
Menu

การใช้น้ำมันงา และประโยชน์ของน้ำมันงาต่อสุขภาพ

    น้ำมันงากำลังเป็นที่เลื่องลือด้วยเหตุผลดีๆ หลายข้อ การศึกษาเมื่อเร็วๆ นี้แสดงให้เห็นว่า ประโยชน์ของน้ำมันงาต่อสุขภาพนั้นน่าสนใจทีเดียว ยิ่งกว่านั้น มันยังดีต่อผิวและผมของคุณด้วย โอ้! และแน่นอน น้ำมันงาเป็นวิธีที่ดีต่อสุขภาพในการเติมรสชาติแสนมหัศจรรย์ลงในสูตรอาหารของคุณ เปิดเอางาออกมาเลย!
    ใช้น้ำมันงาเป็นไขมันที่ดีต่อสุขภาพ ตอนนี้พวกเราส่วนมากคงทราบกันว่าไขมันมีมากมายหลายชนิด บางชนิดดี บางชนิดไม่ดี หรืออันตรายต่อสุขภาพอย่างชัดเจน น้ำมันงาอุดมไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนและไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว รวมถึงมีไขมันอิ่มตัวต่ำ ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวและเชิงซ้อนนั้น “ดีต่อหัวใจ” และช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอล อีกด้านหนึ่ง ไขมันอิ่มตัว (ไขมัน “ไม่ดี”) และไขมันทรานส์ (ไขมัน “อันตราย”) จะกระตุ้นการอักเสบและเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลโดยรวม ซึ่งไม่ดีต่อหัวใจ น้ำมันงาปริมาณ ¼ ถ้วย ประกอบด้วยไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว 6.75 กรัม ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน 7.84 กรัม และไขมันอิ่มตัว 2.50 กรัม
    ใช้เพื่อนวดเท้าก่อนเข้านอน เราทุกคนล้วนมีกิจวัตรประจำเวลานอน เช่น แปรงฟันบ้าง ล้างหน้าบ้าง ทาครีมมหัศจรรย์บนใบหน้าบ้าง แล้วถ้าเป็นการทำอะไรที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย อย่างการนวดเท้าล่ะ? การนวดตัวเอง เป็นส่วนสำคัญของศาสตร์ทางการแพทย์อายุรเวท และน้ำมันงาก็มีคุณค่าต่อผิวของคุณ (อายุรเวท เป็นวิธีแบบองค์รวมที่ปฏิบัติสืบต่อกันในอินเดียมายาวนานกว่า 5,000 ปี) การนวดน้ำมันงาประมาณ 1 ช้อนชา ลงบนฝ่าเท้าของคุณก่อนนอน จะช่วยให้คุณหลับสบายขึ้นในยามค่ำคืน และอย่าลืมสวมถุงเท้าหลังนวดด้วยน้ำมัน จะได้ทำให้ไม่ลื่น คุณเคยตื่นตอนตี 2 แล้วนอนต่อไม่หลับไหมล่ะ?
    น้ำมันงาดีต่อสุขภาพอนามัยในช่องปาก บรรพบุรุษของเราไม่ได้มีแปรงสีฟันไว้ใช้เพื่อดูแลสุขภาพฟันและเพื่อให้มีลมหายใจหอมสดชื่น เมื่อนานมาแล้ว พวกเขาใช้การดูดน้ำมันเพื่อทำให้ปากสะอาด การกลั้วน้ำมันงาในปากเป็นเวลาถึง 10 นาที เป็นอีกหนึ่งเทคนิคของอายุรเวท การศึกษาทางการแพทย์มากมายพบว่ามันช่วยลดปริมาณแบคทีเรียในช่องปาก และช่วยให้สุขภาพช่องปากและเหงือกแข็งแรง
    น้ำมันงาช่วยให้การบำรุงผิวหนังและกระดูก น้ำมันงาไม่ได้มีสารอาหารแบบเดียวกับเมล็ดงา เนื่องจากน้ำมันนั้นผลิตจากส่วนที่แยกเฉพาะของพืช แต่สิ่งมหัศจรรย์อย่างหนึ่งที่ยังติดมาด้วยก็คือ แร่สังกะสี เรามักคิดถึงแร่สังกะสีเมื่อเราเป็นไข้หวัดธรรมดาหรือไข้หวัดใหญ่ เนื่องจากมันช่วยย่นระยะเวลาของโรคหรือลดความรุนแรงของอาการได้ สังกะสียังถูกใช้ในการสร้างคอลลาเจนในร่างกาย ซึ่งช่วยให้ผิวหนังของเรายืดหยุ่นมากขึ้น นอกจากนี้สังกะสียังช่วยเพิ่มความหนาแน่นมวลกระดูกด้วย
    มันช่วยให้คุณขับถ่ายง่าย เราทุกคนล้วนประสบปัญหาท้องผูกบ้างเป็นครั้งคราว การดื่มน้ำมากๆ และรับไฟเบอร์อย่างเพียงพอในอาหารช่วยให้คุณขับถ่ายสะดวกขึ้น แต่บางครั้งเราก็ตกจากรถบรรทุกไฟเบอร์ หรือเราอาจทานยาที่ทำให้ท้องผูก สรรพคุณของน้ำมันงาอีกอย่างหนึ่งคือช่วยให้สิ่งต่างๆ เคลื่อนที่ได้อีกครั้ง การรับในปริมาณ 1 – 2 ช้อนโต๊ะ (อาจแยกเป็นเวลาเช้าและเย็น หรือรับครั้งเดียวในปริมาณมากขึ้นในตอนเย็น) จะช่วยหล่อลื่นลำไส้ของคุณ ทำให้ลดอาการท้องผูกได้ ไม่ใช่ผู้ชื่นชอบการกินน้ำมันงาเปล่าๆ ใช่ไหม?
    น้ำมันงาช่วยให้ผมของคุณเงางามและสมบูรณ์ พวกเราส่วนมากอาจมีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผมมากมาย ที่ถูกใช้ไปเพียงครึ่งขวดวางเรียงรายอยู่ เนื่องจากคำโฆษณาไม่ให้ผลลัพธ์ใดๆ น้ำมันงาประกอบด้วยทั้งวิตามิน บี และ อี แมกนีเซียม แคลเซียม และฟอสฟอรัส ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ รีบบึ่งไปยังตู้กับข้าวของคุณแทนตู้เก็บของในห้องน้ำ และหยิบเอาน้ำมันงามาสักนิดหน่อย นวดน้ำมันงาลงบนรากผมและหนังศีรษะ และชโลมไว้ให้ชุ่ม ประมาณ 30 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำอุ่น และสระผมด้วยแชมพูในเช้าวันถัดไป หรือสระผมหนังจาก 30 นาทีแรกเลยก็ได้ หากคุณต้องการ
    ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ สารอนุมูลอิสระสร้างความบาดเจ็บเสียหายแก่ DNA เซลล์ และโปรตีนของเรา ความเสียหายดังกล่าวสามารถนำไปสู่โรคต่างๆ เช่น อัลไซเมอร์ พาร์กินสัน และมะเร็งได้ สารบางอย่าง เช่น แอลกอฮอล์ ยาสูบ ควัน ยากำจัดศัตรูพืช มลพิษทางอากาศ และอาหารที่เรารับประทาน เป็นตัวสร้างอนุมูลอิสระ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องทานอาหารซึ่งอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เพื่อป้องกันความเสียหายที่เกิดจากมันและลดออกซิเดทีฟสเตรส มีหลักฐานการค้นพบใหม่ๆ บ่งชี้ว่า นี่อาจจะมีประโยชน์ในการป้องกันโรคข้ออักเสบ การกระจายตัวของมะเร็ง ความบาดเจ็บของเซลล์ประสาท และภาวะอักเสบได้ แม้ว่าจะยังอยู่ในช่วงเริ่มแรกก็ตาม
    น้ำมันงาสามารถทนความร้อนได้ เรารักการใช้น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์และน้ำมันมะพร้าวในการทำอาหาร แต่มันมักไหม้เร็วที่อุณหภูมิสูงๆ ซึ่งนอกจากจะส่งกลิ่นคลุ้งทั่วห้องครัวและทำลายอาหารของเราแล้ว น้ำมันที่ไหม้ยังไม่ดีต่อสุขภาพเราด้วย จุดเกิดควัน (Smoke point) คือ อุณหภูมิที่ไขมันจะเสียสภาพ และเริ่มปล่อยสารอนุมูลอิสระและกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกมา ความดีงามของน้ำมันงาคือมันมีจุดเกิดควันที่ประมาณ 400 องศาฟาเรนไฮต์ เราจึงสามารถใช้เพื่อประกอบอาหารได้หลากหลายประเภท โดยปราศจากสารอันตรายที่ถูกปล่อยออกมาสู่อากาศ
    ดึงดูดใจด้วยรสชาติ สรรพคุณต่างๆ ของน้ำมันงา ก็นับเป็นข้ออ้างที่ดีแล้วในการใช้ทำอาหาร แต่มันยังให้รสชาติที่ดีอีกด้วยสิ น้ำมันงาให้รสคล้ายถั่ว และนิยมใช้ประกอบอาหารจีนและอาหารเกาหลี รวมถึงอาหารจากอินเดียตอนใต้บางประเภทด้วย คุณอาจเห็นทั้งน้ำมันงาคั่วและน้ำมันงาธรรมดาบนชั้นขายวัตถุดิบทำอาหาร น้ำมันงาคั่วนั้นทำจากเมล็ดงาคั่วและจะมีสีเข้มกว่า มันช่วยเพิ่มรสชาติที่คล้ายถั่วและคล้ายการรมควัน น้ำมันงาธรรมดาทำจากเมล็ดงาที่ไม่ผ่านการคั่วและมีสีอ่อนกว่า ซึ่งใช้ประกอบอาหารส่วนใหญ่ ทั้งสองชนิดควรเก็บไว้แช่เย็นเพื่อป้องกันกลิ่นเหม็นหืน โดยเฉพาะหากคุณไม่ได้ใช้มันบ่อยๆ
    ใช้เพียงนิดก็ติดใจ น้ำมันงาเป็นของประจำที่อยู่คู่ตู้กับข้าวของฉันเลย เธอใช้มันทำเมนูผัด บิบิมบับในถ้วย และทาโก้แบบเกาหลี ซึ่งมันให้กลิ่นที่ชัดเจนและหอมหวน คุณเพียงใช้มันปริมาณน้อยๆ เท่านั้นก็ได้ผลแล้ว
    มันเป็นเครื่องปรุงอาหารที่อร่อย และดีต่อสุขภาพ หากคุณไม่เคยใช้น้ำมันงาทำอาหารมาก่อน เราพนันได้เลยว่าคุณต้องอยากรู้อยากลองมันแน่ๆ แต่ถ้าคุณไม่เก่งเรื่องการทำอาหารนัก นี่เป็นวิธีที่เร็วและง่าย สำหรับการลองน้ำมันงาหรือน้ำมันงาคั่ว ทางเลือกเหล่านี้เป็นของคุณแล้ว : เหยาะน้ำมันงาคั่วสักเล็กน้อยลงบนราเม็ง หรือก๋วยเตี๋ยวทานเหลือเย็นๆ, ราดน้ำมันงาลงบนสลัดผักใบเขียว, พรมลงบนผักปรุงสุกเล็กน้อย, เติม 2-3 หยด ลงในไข่ที่ตีอยู่ เพื่อให้ได้ไข่คนหรือไข่เจียวที่นุ่มฟูยิ่งขึ้น, ใช้น้ำมันงาแทนน้ำมันอื่นๆ ในการหมัก, ใช้แปรงทาน้ำมันงาลงบนหน่อไม้ฝรั่งหรือข้าวโพดหวาน และใช้น้ำมันงา (แบบไม่คั่ว) แทนน้ำมันพืชสำหรับทำป๊อปคอร์นบนเตา

โพสต์โดย : solo solo เมื่อ 14 พ.ย. 2566 06:57:14 น. อ่าน 83 ตอบ 0

facebook