การเปลี่ยนแปลงความเชื่อมากขึ้น

เมื่อทดสอบกับลักษณะทางคลินิกอื่นๆ เช่น อายุ ประวัติอาการทางจิต และระยะเวลาของการเจ็บป่วย มีเพียงความเอนเอียงในการปรับปรุงความเชื่อเท่านั้นที่เชื่อมโยงอย่างมากกับการใช้เวลามากขึ้นในระยะยูริธมิก และการรับประทานยาต้านอาการซึมเศร้าก็เชื่อมโยงกับระยะเวลาที่ใช้ในยูริธเมียที่สั้นลง "ผลการวิจัยของเราแสดงให้เห็นว่าผู้ป่วยโรค ไบโพลาร์ ปรับปรุงความเชื่อของตนเพื่อตอบสนองต่อข้อมูลเชิงบวก เมื่อเทียบกับข้อมูลเชิงลบ เป็นตัวทำนายว่าผู้ป่วยจะมีอาการกำเริบเมื่อใด" ผู้เขียนอาวุโส Tali Sharot ศาสตราจารย์ด้านประสาทวิทยาการรู้คิดแห่งภาควิชาจิตวิทยาการทดลองกล่าวสรุป ,มหาวิทยาลัยคอลเลจลอนดอน สหราชอาณาจักร "วิธีที่ผู้ป่วยปรับปรุงความเชื่อของพวกเขาอาจถูกนำมาใช้ในอนาคตในฐานะเครื่องมือทำนายความเสี่ยงสำหรับโรคไบโพลาร์ ซึ่งช่วยให้ผู้ป่วยและแพทย์เพิ่มความระมัดระวังในการรับรู้อาการและเข้าแทรกแซงในกรณีที่จำเป็น"